การเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากจะต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินโดยการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องระวังก็คือ “การป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด” เพราะถึงแม้ “ยุง” จะตัวเล็ก แต่พิษสงร้ายแรงไม่ใช่เล่น นอกจากจะสร้างความรำคาญแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรคหลายชนิดมาสู่คนอีกด้วย
1. โรคไข้เลือดออก
โดยมีภาหะมาจากยุงลาย อาการของไข้เลือดออกไม่มีอาการจำเพาะอาจมีได้หลากหลายอาการในเด็กอาจจะเกิดเพียงผื่นคันหรือมีไข้ ส่วนในผู้ใหญ่อาจจะมีอาการไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดตามร่างกาย ปวดกระบอกตา และมีผื่นแดงๆตามร่างกาย รวมถึงอาจจะมีอาการเลือดออกง่ายและถ่ายอุจาระออกมาเป็นสีดำและเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อนอื่นๆเช่น ช็อก ชัก บวม แน่นหน้าอก หรือมีเลือดออกในอวัยวะภายใน หากไม่คิดว่าเป็นไข้เลือกออก อาจจะทำให้การรักษาช้า ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้
2. โรคมาลาเรีย
พาหะของโรคคือยุงก้นปล่องที่พบได้มากตามป่าหรือพื้นที่รกร้าง อากาศร้อนชื้นหรือตามแหล่งน้ำต่างๆ ส่วนอาการของผู้ป่วยมาลาเรียคือ มีไข้ ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย ชีพจรเต้นเร็ว หนาวสั่น คลื่นไส้อาเจียน หน้าซีดปากซีดจากการที่เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย และเริ่มเข้าสู่ภาวะโลหิตจาง ตัวเหลืองเหมือนดีซ่าน และอาจมีปัสสาวะสีเข้มเหมือนสีน้ำปลา
3. โรคเท้าช้าง
โรคนี้เกิดเนื่องจากพยาธิตัวกลม Wuchereria bancrofti และ Brugia malayi ซึ่งอาศัยอยู่ในคนเท่านั้น โดยเชื้อจะเข้าผ่านทางท่อและต่อมน้ำเหลือง โดยอยู่ในร่างกายคนเราได้ 4-6 ปีก่อนจะออกลูกเป็นล้านตัวเข้ากระแสเลือด โดยยุงที่กัดคนที่เป็นจะรับรับเชื้อไปปล่อยยังอีกคนได้ สำหรับอาการของโรค คือ มีไข้สูงเฉียบพลัน มีอาการอักเสบตามบริเวณต่อมน้ำเหลืองจุดต่างๆผิวหนังบริเวณที่อักเสบจะบวมแดงมีน้ำเหลืองคั่ง คลำเจอเป็นก้อนขรุขระ
4. ไข้ปวดข้อยุงลาย (ชิคุนกุนย่า)
เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อได้โดยยุงลาย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงและมีอาการปวดตามข้อแต่มักจะไม่เสียชีวิตแต่อาการปวดข้ออาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะหาย อาการค่อนข้างคล้ายไข้เลือดออกมากแต่ไม่พบการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือดจึงไม่พบอาการช็อกในผู้ป่วย
5. ไข้สมองอักเสบ
พาหะของโรคคือยุงรำคาญ ส่วนใหญ่พบในนาข้าวเพราะเป็นแหล่งแพร่พันธุ์และมีหมูเป็นรังของโรค โดยยุงรำคาญไปกัดหมูที่เป็นโรคและนำพาหะสู่คนและสัตว์อื่นๆ อาการคือหลังรับเชื้อ 5-15 วันโดยมีอาการไข้สูง อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการผิดปกติทางสมองเช่นสติความนึกคิดลดลง ซึม เพ้อ ชักหรืออาจหมดสติ ซึ่งหลังจากอาการของโรคหายไป อาจหลงเหลือความผิดปกติของสมองอยู่บ้างเช่น พูดไม่ชัด เกร็ง ชัก หรือสติไม่ค่อยปกติ
ดังนั้นทุกคนมีสิทธิ์ถูกยุงกัดได้ อย่าชะล่าใจไป ควรระวัดระวังตัวไม่ให้ถูกยุงกัดจะดีที่สุด โดยการดูแลสภาพแวดล้อมที่ตนเองอาศัยอยุ่ให้ปราศจากยุงหรือให้มีปริมาณยุงที่น้อยที่สุดทำลายแหล่งเพราะพันธ์ยุง และหากมีอาการเป็นไข้สูงหลังยุงกัด 1-2 สัปดาห์แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วเพื่อหากป่วยด้วยโรคเหล่านี้ขึ้นมาจะได้รักษาได้อย่างทันทวงที