คุณสมบัติชั้นเลิศของวิตามิน E ที่สาวๆ ส่วนใหญ่ให้ความสนใจคือ เป็นสารต่อต่านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของสารอาหารในกลุ่มไขมัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน A ช่วยกระตุ้นการมองเห็น ป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดริ้วรอยแห่งวัย เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ T-cells ในการต่อต้านมะเร็งเม็ดเลือดขาว ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม ป้องกัน และสลายลิ่มเลือด ลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นต้อกระจก ช่วยลดความดันโลหิต ทำหน้าที่คล้ายเป็นยาขยายหลอดเลือด เป็นยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น
ซึ่งจากคุณสมบัติดังกล่าวล้วนแต่เป็นข้อดีของวิตามินอีทั้งสิ้น ทว่า ข้อดีบางประการของวิตามิน E ก็มีผลต่อการผ่าตัดด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ การที่วิตามินอีทำหน้าที่เป็นยาขยายหลอดเลือด ต่อต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด และลดความดันโลหิต ซึ่งจะมีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า ในขณะที่แพทย์ทำการผ่าตัด และการที่ความดันโลหิตลดลงมากในขณะที่แพทย์ทำการผ่าตัด ก็ไม่เป็นผลดีต่อผู้ป่วยด้วยเช่นกัน
ดังนั้นก่อนการเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมยังไงก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลว่าควรปฎิบัติตัวอย่างไรและควรงดอาหารเสริมประเภทใดบ้าง เพื่อที่การผ่าตัดที่จะเกิดขึ้นนั้นมีความปลอดภัยที่สุด