ผลพ่วงจากความหดหู่ กับ ภาวะ “Headline Stress Disorder”
ทุกวันนี้เหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว การเมือง การงาน โรคระบาด ข่าวสารต่างๆ มากมายไปหมด บางท่านให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต เพราะข่าวและเนื้อหาต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อและโซเชียลมีเดีย สร้างความเศร้า ความเครียดสะสม ที่มากเกินไป จนอาจเกิดภาวะ Headline Stress Disorder ไม่ใช่ชื่อโรค แต่เป็นคำเรียกภาวะเครียด หรือวิตกกังวลที่เกิดขึ้นจากการเสพข่าวทางสื่อต่างๆ ที่มากเกินไป
ใครคือกลุ่มเสี่ยง ภาวะ ‘Headline Stress Disorder’
- คนที่เหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ อาจกำลังเครียดเรื่องงาน ครอบครัว การเรียน พักผ่อนไม่เพียงพอ เจ็บป่วย จะอารมณ์อ่อนไหวง่าย เมื่อมาเสพข่าวที่หดหู่ก็จะเครียดได้ง่าย
- คนที่มีโรควิตกกังวลหรือซึมเศร้าอยู่แล้ว จะถูกกระตุ้นได้ง่ายจากการเสพข่าวที่หดหู่
- คนที่ใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์เยอะ มีโอกาสรับรู้ข่าวจริงและปลอม ทั้งดีและร้าย ได้เยอะ
- คนที่ขาดวิจารณญาณในการเสพข่าว ด้วยวัย วุฒิภาวะ หรือบุคลิกภาพ มีแนวโน้มเชื่อพาดหัวข่าวทันทีได้ง่าย
คำแนะนำการเสพข่าวที่หดหู่
- หากเครียดมาก อาจงดเสพข่าวหรือใช้สื่อสังคมออนไลน์ไปสักพัก
- อย่าเชื่อพาดหัวข่าวที่เห็นในทันที เพราะมักใช้คำกระตุ้นอารมณ์ดึงดูดให้สนใจ แนะนำให้อ่านรายละเอียดของข่าวด้วย
- หากเป็นข่าวด่วน อาจรอสักหน่อยให้มีข้อมูลความจริงมากขึ้น แล้วค่อยอ่านในรายละเอียดข่าว
หาข่าวดีๆ ดูบ้าง
- พยายามมองหาสิ่งที่ดีในข่าวที่อ่านบ้าง ทุกอย่างมีทั้งด้านดีและร้ายเสมอ
- อ่านข่าวที่ดีต่อใจบ้าง อย่าเสพแต่ข่าวที่หดหู่
- อย่าเสพข่าวก่อนนอน เพื่อให้สมองได้พักและหลับได้ดี
- ทำกิจกรรมคลายเครียด ผ่อนคลายบ้าง อย่าเอาแต่ติดตามข่าวทั้งวัน
- พูดคุยกับคนอื่นบ้าง การหมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งคนเดียวจะยิ่งทำให้จมกับความคิดลบๆ ได้ง่าย
ความเครียดส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพของเรา ดูแลทั้งสุขภาพกาย และใจกันนะคะ
สุขภาพดีไม่มีขาย ใครอยากได้ต้องดูแล เพราะเราอยากให้คุณ “แข็งแรง”
ที่มา :
1. Sanook .(2022) Headline Stress Disorder สุขภาพจิตพังจากการเสพข่าวหดหู่มากเกินไป สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2565
2. กรุงเทพธุรกิจ.(2022) “Headline Stress Disorder” สืบค้นเมื่อ 24 มีนาคม 2565