ดูแลหัวใจอย่างไร ให้แข็งแรง
เวียนมาถึงเดือนแห่งความรักกันแล้ว ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ หัวใจก็เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงความรัก พูดถึงความรักกันแล้ว สัญลักษณ์ก็หนีไม่พ้น หัวใจนั่นเอง
หัวใจถือเป็นหนึ่งอวัยวะที่สำคัญต่อทุกระบบในร่างกาย เนื่องจากเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงตามอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายผ่านการทำงานของหัวใจทั้งสี่ห้อง นอกจากนี้การที่เรามีหัวใจแข็งแรง เป็นการบ่งบอกถึงความสามารถในการใช้งานของร่างกายได้ดีอีกด้วย ทั้งการออกกำลังกาย การใช้สมองก็จะทำงานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
เราทุกคนจำเป็นต้องใช้ออกซิเจนเพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ทุกเซลล์ภายในร่างกาย ดังนั้น การที่หัวใจมีหน้าที่สำคัญในการสูบฉีดเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ก็เท่ากับว่า หัวใจกำลังทำหน้าที่ในการส่งออกซิเจนที่อยู่ในเลือด ซึ่งได้จากการฟอกของปอด ไปยังเซลล์ต่างๆ ของร่างกายนั่นเอง
การทำงานของหัวใจทั้งสี่ห้อง
- หัวใจห้องบนขวา (Right atrium) เป็นส่วนที่คอยรับเลือดจากร่างกายส่วนบนและส่วนล่างผ่านหลอดเลือดดำใหญ่ 2 เส้น คือ หลอดเลือดดำบน (superior vena cava) และหลอดเลือดดำล่าง (Inferior vena cava)
- หัวใจห้องล่างขวา (Right ventricle) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับเลือดต่อจากหัวใจห้องบนขวา และส่งเลือดต่อไปยังปอดเพื่อทำการฟอก โดยผ่านลิ้นหัวใจพัลโมนารี (pulmonary valve) และหลอดเลือดแดงพัลโมนารี (pulmonary arteries)
- หัวใจห้องบนซ้าย (Left atrium) เมื่อเลือดได้รับการฟอกจากปอดแล้ว จะเป็นเลือดที่มีออกซิเจนอยู่สูง ซึ่งเลือดนี้จะเดินทางเข้าสู่หัวใจห้องบนซ้าย โดยผ่านหลอดเลือดดำพัลโมนารี หรือหลอดเลือดดำจากปอด (pulmonary veins) จากนั้นจึงส่งต่อไปยังหัวใจห้องล่างซ้าย
- หัวใจห้องล่างซ้าย (Left ventricle) ทันทีที่เลือดมาถึงหัวใจส่วนนี้ เลือดจะถูกสูบฉีดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผ่านลิ้นหัวใจเอออร์ติก (Aortic valve) และหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา (Aorta) ดังนั้น หัวใจส่วนนี้จึงจำเป็นจะต้องมีผนังหัวใจที่หนาและแข็งแรงที่สุด ทั้งยังเป็นห้องหัวใจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วยเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงพอที่จะสูบฉีดเลือดออกไปทั่วร่างกายได้
เราควรดูแลหัวใจอย่างไร ให้แข็งแรง
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพหัวใจ
ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงปลอดจากโรคภัย แต่การออกกำลังกายของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่องกัน เป็นระยะเวลาหนึ่งซึ่งจะมีผลให้ร่างกายใช้ออกซิเจนไปเผาผลาญอาหารในร่างกาย และทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น เช่น เดินเร็วๆ วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือเต้นแอโรบิก เป็นต้น
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบเลือดและหัวใจทำงานผิดปกติคือเหล่าพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลต่อร่างกาย เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา ยาเสพติด หรือแม้กระทั่งความเครียดที่ส่งผลต่อร่างกายในลักษณะลูกโซ่ ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคภัย ฉะนั้นพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงเป็นการดีที่สุด
การรับประทานอาหารและผลไม้
แน่นอนว่าหากมีการรับประทานอาหารและผลไม้ที่ดี มีประโยชน์เป็นประจำจะช่วยส่งผลให้การทำงานของระบบหลอดเลือดและหัวใจแข็งแรงขึ้น และเราสามารถเลือกรับประทานอาหาร ผลไม้ที่หาได้ไม่ยาก เช่น ข้าวโอ๊ต ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและดีต่อระบบหัวใจ, ถั่ว ซึ่งเป็นเมล็ดธัญพืช มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ, หน่อไม้ฝรั่ง ที่มีความสามารถในการขจัดลิ่มเลือด ซึ่งถือได้ว่าเป็นสาเหตุหลักของอาการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายได้อย่างดี หรือแม้แต่ชาเขียวร้อน ช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือด กระตุ้นการทำงานของระบบดูดซึมสารอาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ อาหารที่มีไขมันและคลอเรสเตอรอลสูงควรหลีกเลี่ยงการบริโภค และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างหลากหลาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
การตรวจสุขภาพ
นอกจากการออกกำลังกาย การเลี่ยงหลีกพฤติกรรมเสี่ยงและการรับประทานอาหารและผลไม้ที่ดีต่อระบบหัวใจแล้ว การหมั่นตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพ ซึ่งตรวจและพบว่ามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคก็จะสามารถดูแลร่างกายให้กลับมาแข็งแรงขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพียงเท่านี้ร่างกายของเราก็มีสุขภาพแข็งแรงห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.honestdocs.co