เคยสงสัยกันไหมค่ะว่า ทำไมเราจึงต้องมีถุงใต้ตา?
ความจริงเรามีถุงใต้ตากันทุกคนตั้งแต่เกิด เพราะถุงใต้ตาก็คือไขมันที่อยู่ใต้ลูกตาที่อยู่ในเบ้าตาอีกทีหนึ่ง ไม่ใช่อะไรที่เป็นถุงๆอย่างที่หลายคนเข้าใจ ยามที่เราเป็นเด็กหรือวัยรุ่นกล้ามเนื้อรอบดวงตามีความแข็งแรงเป็นเหมือนผนังกั้นไม่ให้ไขมันดันตัวออกมา เมื่อเราอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงลงจะทำให้ไขมันที่มีอยู่เดิมสามารถดันตัวออกมาให้เห็นเป็นถุงได้ คนส่วนใหญ่จึงเรียกมันว่าถุงใต้ตา
แล้วถ้าต้องการเอาถุงใต้ตาออกต้องทำอย่างไร?
การศัลยกรรมถุงใต้ตาเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับเป็นมาตรฐานสำหรับการเอาถุงใต้ตาออก ซึ่งจะผ่าตัดเอาออกจากด้านในหนังตาหรือจะผ่าตัดเอาออกด้วยการกรีดตาล่างก็ได้ ส่วนวิธีอื่นๆ เช่น การฉีดยาสลายไขมันใต้ตา การทายากระชับผิว ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้แต่อย่างใด การฉีดสารเติมเติมที่ร่องตาเป็นการแก้ปัญหาที่ร่องตาทำให้ถุงใต้ตาอาจดูชัดน้อยลงบ้าง แต่ก็ไม่ใช่วิธีรักษาถุงใต้ตาโดยตรงและถ้าทำไม่ดีอาจทำให้ปัญหาถุงใต้ตามากขึ้นได้
เลเซอร์ถุงใต้ตาคืออะไร?
ด้วยเทคโนโลยีของแสงเลเซอร์ ทำให้การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นเรื่องเล็ก เพราะเราสามารถใช้แสงเลเซอร์มาช่วยในการผ่าตัดเพื่อนำถุงไขมันใต้ตาออกมา จากด้านในของหนังตาผ่านแผลขนาดเล็กเพียง 0.5 -1 เซนติเมตรเท่านั้น ด้วยคุณสมบัติพิเศษของแสงเลเซอร์ที่สามารถห้ามเลือดไปในตัว ทำให้เสียเลือดน้อยมาก อาการบวมช้ำจึงน้อยมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัดด้วยการผ่าตัดถุงใต้ตาจากภายนอก สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้เป็นปกติในวันถัดไป โดยไม่มีแผลภายนอกให้เห็น ด้วยเหตุนี้ เลเซอร์ถุงใต้ตาจึงจัดอยู่ในกลุ่ม Weekend surgery ประเภทหนึ่ง
เลเซอร์ถุงใต้ตามีอันตรายหรือไม่?
การทำเลเซอร์ถุงใต้ตาถือว่ามีความปลอดภัยสูงมากถ้าทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ต้องกังวลว่าแสงเลเซอร์จะไปกระทบกับดวงตาเนื่องจากในขณะรักษาดวงตาทั้งคู่จะถูกปกป้องด้วยตัวครอบตา (Eye shield) ซึ่งแสงเลเซอร์ไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ อีกทั้งการผ่าตัดทั้งหมดก็อยู่ในส่วนของหนังตาล่างเป็นหลัก มิได้ทำที่ลูกตาแต่อย่างใด
เลเซอร์ถุงใต้ตารักษารอยคล้ำใต้ตาได้หรือไม่?
รอยคล้ำใต้ตา หรือ Dark circles มีสาเหตุมากมาย ถ้าเป็นรอยคล้ำที่เกิดจากเงาของถุงใต้ตา เมื่อเรานำถุงใต้ตาออกแล้ว รอยคล้ำก็จะหายไปได้ด้วย แต่ถ้าเป็นรอยคล้ำจากสาเหตูอื่นเลเซอร์ถุงใต้ตาช่วยไม่ได้
ข้อแทรกซ้อนที่ต้องระวัง?
แม้ว่าการผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยแสงเลเซอร์จะเป็นวิธีการที่ดี แต่ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นสำคัญ การประเมินสภาพของถุงใต้ตาทั้งก่อนและระหว่างผ่าตัด เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อผลสัมฤทธิ์ของการรักษาด้วยวิธีนี้ เนื่องจากถ้าเราประเมินผิดอาจส่งผลให้ตาลึกโบ๋ หรือผิวหนังเหี่ยวย่นยิ่งกว่าก่อนทำเสียอีก การดูแลหลังผ่าตัดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากอาจมีเลือดออกในภายหลังได้ ถ้าดูแลไม่ดีพอ