ออกกำลังกายห้ามประมาท! เพราะหากไม่ระวังอาจเกิดอุบัติเหตุจนเจ็บตัวได้

ออกกำลังกายห้ามประมาท! เพราะหากไม่ระวังอาจเกิดอุบัติเหตุจนเจ็บตัวได้
ทุกวันนี้การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคตนับว่าเป็นเทรนด์ที่หลายคนให้ความสนใจ การออกกำลังกายในประเภทต่าง ๆ จะทำให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงและยืดหยุ่น แต่หากไม่ระวังอาจเกิดอาการบาดเจ็บได้ แล้วอาการบาดจ็บที่เกิดจากการเล่นกีฬามีอะไรบ้าง วันนี้ แข็งแรง.com มีคำตอบ

7 วิธีกิน ดูแลกระดูกและข้อ

  วันนี้เรามีเคล็ดลับเรื่อง 7 วิธีกินช่วยข้อแข็งแรง มาฝากกันนะคะ อาหารที่มีแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน เช่น งาดำ อัลมอนด์อบ นมและผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น น้ำเต้าหู้ เต้าหู้หลอด แม้แต่การกินปลาตัวเล็กตัวน้อยก็จะช่วยเพิ่มแคลเซียมให้กระดูกแข็งแรง ทั้งนี้ควรจะกินอาหารที่มีวิตามินดีสูง จำพวก นม ไข่ ปลาซาดีน ควบคู่กันไปได้ด้วย เพราะวิตามินดีจะช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระหรือเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะผักต่างๆ อย่างใบยอ ยอดแค ผักโขม ผักคะน้า บรอกโคลี ผักกระเฉด ถั่วงอก อีกทั้งยังควรกินผักให้หลากสี เช่น มะเขือเทศสีแดง แครอทสีส้ม กะหล่ำปลีสีม่วง ข้าวโพดและฟักทองสีเหลือง เพราะจะได้วิตามินที่หลากหลาย โดยเฉพาะผักใบเขียวต่างๆ จะมีวิตามินเคที่มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกค่อนข้างสูง ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมีวิตามินซีและสารแอนติออกซิแดนท์ จะช่วยลดการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้                       …

ผู้สูงวัย ทานอย่างไร (elderly eating)

ผู้สูงวัยเป็นผู้ที่มีร่างกายที่เสื่อมลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ระบบต่างๆในร่างกายก็เสื่อมลงรวมทั้งระบบการย่อยอาหาร ผู้สูงวัยมีความต้องการปริมาณอาหารน้อยลงอย่างไรก็ตามยังคงต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและครบถ้วนเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพสมบูรณ์นะคะ อาหารที่เหมาะกับผู้สูงวัยแนะนำให้ทานค่ะ

5 สมุนไพรช่วยบำรุงหัวใจ

 

วันนี้เรามีข้อมูลเรื่องสมุนไพรไทยที่ช่วยในการบำรุงหัวใจมาฝากกันครับ

เป็นสมุนไพรไทยที่สามารถหาได้ง่ายๆตามท้องตลาดแถมมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย วันนี้เรายกมา 5 สมุนไพรเด่นๆที่ช่วยบำรุงหัวใจ ประกอบไปด้วย

ช่วงหน้าฝนอันตราย โรคไข้เลือดออก

เข้าสู่ช่วงหน้าฝน แน่นนอนว่าลำบากในการสัญจรแล้วยังมีเรื่องสุขภาพที่ต้องระวังไมใช่แค่โควิคแต่เป็นโรคไข้เลือดออก ทราบกันหรือไม่ค่ะ จากสถิติสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-5 พ.ค. 63 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 10,938 คน เสียชีวิต 9 คน กล่าวโดย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงว่าผู้ติดเชื่อโควิคเกือบ 3 เท่า เป็นที่น่าจับตามองและเฝ้าระวังกันให้ดี โดยแข็งแรงแนะนำแนวทางการป้องกันโรคไข้เลือดออกมาฝากด้วยค่ะ

ดูแลเด็กที่เป็นโรคหวัดอย่างไร

การดูแลเด็กเมื่อเป็นไข้หวัดต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากร่างกายของเด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำยังไม่มีภูมิต้านทานที่แข็งแรงเท่ากับวัยผู้ใหญ่ ดังนั้นการดูแลเด็กเมื่อตอนป่วยเฝ้าระวังดูอาการอยู่ตลอดเวลาแทบจะไม่ให้คลาดสายตา และยิ่งคุณแม่มือใหม่จะกังวลทำอะไรไม่ถูกแทบจะไม่รู้เลยว่าอาการของเด็กจะต้องดูแลอย่างไรให้ถูกต้อง และอาการแบบไหนควรพาไปพบแพทย์ทันทีมีคำตอบมาให้ค่ะ

เด็กเป็นหวัด

โรคหวัดในเด็ก (Common cold in children)

โรคหวัดในเด็กเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยที่สุดสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส เช่น Rhinovirus  , Influenza virus มักมีอาการไม่รุนแรงทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของเชื้อไวรัส  โรคนี้มักพบบ่อยในฤดูหนาวที่มีอากาศเย็นและความชื้นสัมพัทธ์ต่ำโดยเด็กมีโอกาสเป็นหวัดปีละประมาณ 6 – 8 ครั้งและจะพบน้อยลงเมื่อโตขึ้นส่วนผู้ใหญ่พบได้ปีละประมาณ 2 – 3 ครั้ง โดยชายและหญิงมีโอกาสเกิดโรคได้พอๆกันนะคะ ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมีดังนี้ สภาพอากาศ หากอากาศเย็นและความ ชื้นสัมพัทธ์ต่ำจะมีโอกาสเกิดโรคสูง การอยู่ในที่ชุมชนที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโรคหวัด ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคหวัดเช่น อยู่ในโรงเรียนหรือสถานเลี้ยงเด็ก ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่อง อาการของโรคเป็นอย่างไร ในเด็กทารกและในเด็กเล็ก: ระยะแรกมักจะมีอาการไข้ โดยตรวจไม่พบความผิดปกติอื่นๆ ต่อมาก็จะเริ่มมีน้ำมูกไหล ไอ จาม ร้องกวน และน้ำมูกจะทำให้เกิดการหายใจลำบาก อาจมีอาการอาเจียน และท้องร่วงร่วมด้วยในเด็กบางคน เด็กโตจะเริ่มด้วยอาการจาม คอแห้ง ปากแห้ง บางคนมีอาการหนาวๆร้อนๆและปวดเมื่อยตามตัว ตามมาด้วยน้ำมูกไหลซึ่งในระยะแรกจะเป็นน้ำมูกใสๆ ต่อมาจะปนสีเหลืองหรือเขียวหรือเป็นหนองจากการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนนั่นเอง อาการต่างๆเหล่านี้จะเป็นอยู่ประมาณ 2 ถึง 7 วัน ถ้ามีอาการนานกว่านี้ให้สงสัยว่ามีภาวะแทรกซ้อน หรือมีสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่โรคหวัด โดยทั่วไปโรคหวัดในเด็กถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ มักจะหายเอง ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ แต่ถ้ามีอาการหวัดนานเกิน 7 วันแล้วไม่หาย…