เมลาโทนิน นอนไม่หลับ insomnia

เมลาโทนินกับการนอนหลับ

เมลาโทนิน ชื่อนี้เป็นที่กล่าวถึงกันมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในโลกอินเตอร์เน็ต พูดกันมากเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ที่ช่วยในเรื่องของการนอนไม่หลับ ที่มีสาเหตุจากปัญหาหลากหลายในชีวิตประจำวัน ก่อเกิดความเครียด ส่งผลให้นอนไม่หลับ สุขภาพย่ำแย่ตามมา หลายคนจึงต้องพยายามหาตัวช่วย เพื่อที่จะทำให้นอนหลับดีขึ้น สารเมลาโทนินที่ว่านี้มันคืออะไร ลองมาทำความรู้จักกันหน่อย สารเมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เองจากต่อมไพเนียล (pineal gland) โดยร่างกายจะหลั่งสารตัวนี้ออกมา ในเวลากลางคืนตั้งแต่พระอาทิตย์ตก ร่างกายจะหลั่งออกมาเรื่อย ๆ จนมีระดับสูงสุดในเลือดในช่วงครึ่งคืน( half of night) ของการนอนในแต่ละคืน เราพบว่าระดับของเมลาโทนินนั้นจะมีความสัมพันธ์ กับการนอนหลับ ผู้ที่มีเมลาโทนินน้อยจะเกิดภาวะนอนหลับได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุมักจะมีปริมาณเมลาโทนินลดลงและมีปัญหาเรื่องการนอนหลับตามมา หน้าที่ของเมลาโทนิน เมลาโทนินมีบทบาทในการ ควบคุมการทำงานของ วัฏจักรชีพประจำวัน (Circadian rhythm) หรือนาฬิกาชีวภาพ(biological clock ) ของมนุษย์และสัตว์ ทำให้นอนหลับได้เป็นปกติ ควบคุมการหลับและการตื่นในแต่ละวัน โดยร่างกายจะหลั่งสารนี้ออกมาทำให้รู้สึกง่วงและหลับไปในที่สุด มีส่วนช่วยในการรักษาอาการนอนไม่หลับแบบปฐมภูมิ คือการนอนไม่หลับแบบที่มีสาเหตุไม่ชัดเจน ไม่ได้เกิดจากความเจ็บป่วย แต่อาจมีเหตุจากความเครียด หรือความวิตกกังวล มีส่วนช่วยป้องกันอาการหลงลืม ควบคุมระบบต่าง ๆของร่างกาย เช่นระบบต่อมไร้ท่อ ระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบสืบพันธุ์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ…

นอนยากรักษาได้ 18 วิธีตัวช่วยคนนอนไม่หลับ

18 วิธีตัวช่วย คนนอนไม่หลับ

วิธีการรักษาอาการนอนไม่หลับนั้นมีอยู่หลายวิธี  เบื้องต้นนั้นอาจจะใช้วิธีการรักษาโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา ซึ่งมีคำแนะนำเบื้องต้นในการรักษาดังนี้นะครับ

(more…)

ผู้สูงวัย ทานอย่างไร (elderly eating)

ผู้สูงวัยเป็นผู้ที่มีร่างกายที่เสื่อมลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ระบบต่างๆในร่างกายก็เสื่อมลงรวมทั้งระบบการย่อยอาหาร ผู้สูงวัยมีความต้องการปริมาณอาหารน้อยลงอย่างไรก็ตามยังคงต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและครบถ้วนเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพสมบูรณ์นะคะ อาหารที่เหมาะกับผู้สูงวัยแนะนำให้ทานค่ะ

การป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

การป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

 

ผู้สูงอายุมักเป็นโรคกระดูกพรุนและมีความเสี่ยงที่กระดูกจะหักได้ง่ายไม่ว่าจะเกิดการหกล้มหรือกระแทกเบาๆดังนั้นการป้องกันการหกล้มจึงสำคัญมาก วิธีการป้องกันการหกล้มทำได้ดังนี้

เรียนรู้ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ (Respiratory Tract Infection )

การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เป็นการติดเชื้อที่เกิดจาก

เชื้อแบคทีเรีย
ไวรัส

เจ็บคอ อีกแล้ว ทำไมกันนะ?

เจ็บคอ เป็นภาวะที่ไม่สบายในลำคอ ทำให้กลืนลำบากและเจ็บคอ ผู้ที่เจ็บคอมักมีอาการคอแห้ง แดง แสบและระคายเคือง สาเหตุที่ทำให้เจ็บคอที่พบบ่อยคือ การติดเชื้อไวรัส สาเหตุอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย การสัมผัสกับมลภาวะและสารระคายเคืองในอากาศ (เช่น ควันบุหรี่) อากาศแห้ง การใช้เสียงมาก โรคกรดไหลย้อน

ไฮยาลูรอน พลังแห่งความอ่อนเยาว์

หลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อเครื่องสำอางต่างๆว่ามีส่วนผสมของสารไฮยาลูรอน แต่เคยสงสัยไหมค่ะว่าเจ้าสาร ไฮยาลูรอนมันคืออะไรและมีส่วนช่วยในเรื่องใดบ้าง วันนี้ แข็งแรง.com มีคำตอบมาไขข้อข้องใจค่ะ

เผย เคล็ดไม่ลับ ลดทานหวาน

หลายๆท่านก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าการที่เราทานอาหารติดรสหวานไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด เนื่องจากเป็นบ่อเกิดของโรคเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน วันนี้เรามีแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานมาฝากซึ่งอาจจะช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้วิธีการลดความหวานจากพฤติกรรมอย่างค่อยเป็นค่อยไป แผนที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการปรับพฤติกรรม ซึ่งแผนที่ดีควรเป็นแผนที่เหมาะกับคนคนนั้น เหมาะกับวิถีชีวิต สภาพจิตใจ แรงจูงใจ และความพร้อมในการลงมือทำ มาดูกันว่าเราจะลดหวานได้อย่างไรด้วยวิธีเหล่านี้
หาแรงจูงใจให้ตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นแรงจูงใจทางบวกหรือทางลบ เช่น แรงจูงใจทางบวกอาจจะมาจากการอยากมีสุขภาพดีอายุยืน อยากหุ่นดี แรงจูงใจทางลบอาจมาจากการกลัวคนอื่นไม่ยอมรับ กลัวเป็นภาระให้คนที่รัก หรือกลัวใส่เสื้อผ้าได้ไม่ดูดี เป็นต้น
มีเป้าหมายที่ชัดเจน  
เช่น จะหยุดดื่มน้ำอัดลมให้ได้ภายในปีนี้ จะลดขนมหวานลงหนึ่งมื้อในทุกวัน ไม่กินขนมขบเคี้ยวระหว่างเล่นคอมพิวเตอร์ จะเดินอย่างน้อยวันละ 15 นาที จะฝึกหายใจด้วยท้องเพื่อผ่อนคลายเป็นเวลา 20 นาทีทุกคืน โดยให้อยู่ในขอบเขตที่ว่า เราจะทำอะไร และทำมากน้อยแค่ไหน ภายในเวลาเท่าไร1 วันแผนการลดหวานให้สำเร็จ
 
โดยเริ่มกันจาก 2 วิธีง่ายๆเพื่อค่อยๆปรับเปลี่ยนไปสู่พฤติกรรมการทานที่ดี ยังไงลองไปทำดูกันนะคะ
 
Reference : สสส.

5 คำตอบที่ต้องทราบก่อนศัลยกรรมหน้าอก

แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านการศัลยกรรมเสริมความงามจะมีอยู่อย่างแพร่หลาย และได้รับความนิยมอย่างสูง จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสังคมไทยไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น การทำศัลยกรรม (ไม่ว่าอวัยวะส่วนใดๆ ในร่างกายก็ตาม) คนไข้ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด และถามทุกคำถามที่ตนเองสงสัย และตอบทุกคำตอบเกี่ยวกับสุขภาพที่แพทย์ต้องการทราบอย่างไม่ปิดบังด้วยเช่นกัน ซึ่งในจำนวนคำถามที่คนไข้ควรถามขณะทำการปรึกษาแพทย์ ได้แก่ 1. ความเสี่ยง และปัญหาแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด รวมทั้งแนวทางการป้องกัน และแก้ไข 2. ตำแหน่งในการวางถุงเต้านมเทียม บาดแผล และผลกระทบของการเลือกแผลผ่าตัดแต่ละแบบ 3. การเลือกแบบ ลักษณะ และขนาดของถุงเต้านมเทียม ที่เหมาะสมกับตนเอง 4. การปฏิบัติตัวทั้งก่อน และหลังการผ่าตัด 5. ระยะเวลาในการพักฟื้น การใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การให้นมบุตร การตั้งครรภ์ การออกกำลังกาย ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังจากทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก และหากการผ่าตัดเสริมหน้าอกไม่สัมฤทธิ์ผลตามต้องการ เช่น ขนาดไม่พอดี อยากแก้ไขรูปทรงหน้าอกใหม่ หรืออื่นๆ จะมีแนวทางการแก้ไขอย่างไร เป็นต้น เพราะคำถามต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้คนไข้มีความเข้าใจเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกมากขึ้น ช่วยในเรื่องของการเตรียมตัว เตรียมใจ ทั้งยังช่วยลดความวิตกกังวล ความตึงเครียด และความหวาดกลัวจากการผ่าตัดได้ในระดับหนึ่ง…