อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ท่านชายทั้งหลายเมื่ออายุมากขึ้นมักจะประสบกับปัญหาอันยิ่งใหญ่ในชีวิตนั่นคือ เอ๊ะ ทำไมของเรา มันไม่สู้
ในทางการแพทย์มันหมายถึงคุณเป็นโรค ED นั่นเอง โรคนี้มันเป็นยังไงกันนะ
โรค ED (Erectile Dysfunction) หรือ
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
หมายถึงภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอหรือไม่แข็งตัวนานพอที่จะมีกิจกรรมทางเพศได้อย่าง
พึงพอใจ สาเหตุจาก
- โรคทางกายซึ่งมีผลต่อความเสื่อมของหลอดเลือด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคของหลอดเลือดอื่น ๆ โรคของระบบประสาท และโรคของต่อมไร้ท่อ
- ภาวะจิตใจ เช่นความเครียด การขาดความมั่นใจในตนเอง และซึมเศร้า
- โรคทางกายและทางจิตใจร่วมกัน
ชายไทย อายุน้อยกว่า 40 ปี พบผู้ที่เป็นโรค ED 5 %
อายุ 40 – 60 ปี พบ 40 %
อายุ 60 – 70 ปี พบ 70 %
สัญญาณเตือน
อาการเริ่มแรก คืออวัยวะเพศไม่แข็งตัวในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ หรือสามารถแข็งตัวได้ แต่ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
กลุ่มเสี่ยง
กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคของหัวใจและหลอดเลือด และผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย ผู้ที่มีความเครียดเรื้อรัง
การรักษา
รีบพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและทำการรักษา อาจต้องมีการรักษาทางด้านจิตใจควบคู่กันไปด้วย
โรค ED สามารถที่จะรักษา ให้หายได้แต่อาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
ปัจจุบันมียาที่สามารถช่วยให้เลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศได้ดีขึ้น รวมทั้งกักเก็บเลือดเอาไว้ในบริเวณนั้นเพื่อทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีและนานพอ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์
ดูแลตนเอง
ใช้หลัก 3 อ ได้แก่
– อาหาร ควรลดอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม
– ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
– อารมณ์ ควรดูแลอารมณ์ให้แจ่มใส ไม่เครียดเกินไป
ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา และควรพักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งเข้ารับการตรวจร่างกายประจำปีอย่างสม่ำเสมอ
Credit :รศ.นพ.บุญเติม แสงดิษฐ